ฮวงจุ้ย : ไม่ควรเลือก ซื้อบ้านหรืออาคารที่อยู่ใกล้ทางด่วน (ตอนที่ 1)

การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในแต่ละปีในแต่ละท้องที่ ทำให้เกิดการขยายตัวในด้านการคมนาคม จำเป็นจะต้องเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ทางลัด ที่จะช่วยให้การสัญจร การคมนาคม การติดต่อธุรกิจการค้าสามารถทำได้รวดเร็วขึ้นและจากการขยายตัวของบ้านเมือง การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจกระตุ้นให้มีการสร้างทางด่วน ทางต่างระดับ สะพานแขวน สะพานลอยขึ้นเพื่อรองรับกับการขยายตัวของจำนวนรถ และการจราจรที่คับคั่งมากขึ้นทุกขณะ  ในสมัยโบราณนั้น ความเจริญทางด้านสาธารณูปโภคจะเป็นไปในลักษณะพื้น ๆ ตามสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองในขณะนั้น ทางด่วน สะพานแขวนหรือสะพานลอยยังไม่มี การจะนำหลักฮวงจุ้ยหรือหลักภูมิพยากรณ์ศาสตร์มาปรับใช้ จึงต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปคงไม่สามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกเรื่อง ทางด่วน สะพานลอย หรือสะพานแขวนในยุคปัจจุบันก็อาจเปรียบได้กับเสา เสาไฟฟ้า ต้นไม้ หรือสิ่งบดบังที่เข้ามากีดขวางทัศนียภาพของการมองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ในวิชาฮวงจุ้ยนั้น หน้าบ้านของที่อยู่อาศัยยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีทัศนียภาพที่ดี ที่ต้องโล่งแจ้ง กว้าง เหมือนร้านค้า อาคารหรือสำนักงานทั่วไป

ลานที่โล่งด้านหน้าของอาคารหรือสำนักงานนั้น เราจะเรียกว่า “เหม่งตึ้ง” อะไรก็ตามที่มีลักษณะของความแหลมคม เส้นตรง สิ่งกีดขวางที่พาดผ่านหรือพุ่งเข้ามาชนอาคารของเรา โดยเฉพาะตำแหน่งประตู (ปาก) ล้วนแต่ต้องถือว่าไม่ดีทั้งสิ้น เหมือนกับอาวุธที่คอยทิ่มแทงใส่เราอยู่ทุกวัน ทำให้ปากของเราเป็นแผลและบาดเจ็บขึ้นมาได้ การกินอาหารก็ต้องลดน้อยลงไปหรือไม่ก็ทานไม่ได้เลย

ถือว่ามีลักษณะสภาพของความเป็นหยางมากจนขาดความสมดุล ก่อให้เกิดผลกระทบในด้านลบ พลังที่เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่ไปพร้อมกับสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ เรียกว่า “พลังซา” ซึ่งแม้จะมองไม่เห็นแต่ก็เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในธรรมชาติเหมือนกับคลื่นวิทยุ คลื่นไฟฟ้า ปัจจุบันทางด่วน สะพานลอยขนาดใหญ่ ทางต่างระดับในเมืองไทยมีมากและมักจะสร้างอยู่ในแหล่งชุมชน แหล่งที่ทำธุรกิจการค้า ในขณะที่ต่างประเทศมักจะทำอยู่นอกชุมชนหรือไกลจากย่านธุรกิจ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบให้ทางด่วนหรือสะพานลอยนั้นเปรียบเหมือนกับมังกรร้ายที่พาดผ่าน มังกรร้ายแหวกว่ายไปตรงไหนตรงนั้นมีแต่เกิดความเสียหาย เสาหรือตอหม้อแต่ละต้นของสะพานเหมือนกับขามังกร หากประตูสำนักงานหรือร้านค้าของใครไปตรงกับขาของมังกรพอดี ก็ถือว่าโชคร้าย รอวันและเวลาที่จะรับเอาสิ่งเลวร้ายเข้ามา ส่งผลให้ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ไม่เจริญรุ่งเรือง หรือไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ มีแต่จะทรงหรือทรุด สะพานที่พาดผ่านในแต่ละแห่ง ไม่ได้ส่งผลให้เฉพาะอาคารหรือร้านใดร้านร้านหนึ่งโดยเฉพาะ แต่จะส่งผลต่อพื้นที่หรืออาคารร้านค้าละแวกนั้น ปัญหาของทางด่วนไม่เหมือนกับกรณีของต้นไม้ หรือเสาไฟที่ขวางหน้าบ้านอยู่ ยังมีทางตัดโค่นหรือขอให้ย้ายตำแหน่งการวางได้ แต่สะพานเป็นทางสาธารณะประโยชน์ที่ใช้ร่วมกัน จึงยากที่จะขยับขยายได้ในทางปฎิบัติ ทางด่วน สะพานลอย ทางต่างระดับไม่เหมือนกับถนนหรือแม่น้ำ ที่อาจมีทั้งส่วนดีและส่วนเสีย แล้วแต่ว่าอาคารหรือสำนักงานนั้น ๆ ตั้งอยู่ในส่วนโค้งที่โอบอุ้มหรืออยู่ในโค้งหนีจาก แต่สำหรับทางด่วนหรือสะพานแล้ว มีแต่ส่งผลในด้านลบเหมือนมังกรร้ายที่พาดผ่าน ไปถึงไหนมีแต่เดือดร้อนหรือนำความเสียหายมาให้ เสาหรือตอม่อแต่ละต้น ที่รองรับน้ำหนักของสะพานเปรียบเหมือนกับขาของมังกร ถ้าไปตรงกับประตูของสำนักหรือหน้าร้านใดก็ถือว่าโชคร้าย อิทธิพลของทางด่วน ทางยกระดับที่ใหญ่และโค้งยาว ถ้าดูให้ดีก็เหมือนกับคมมีดขนาดใหญ่ที่คอยเชือดเฉือนเนื้อทีละนิดทีละหน่อยทุกวัน ๆ ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยหรือทำธุรกิจอยู่ใกล้ หรือใต้สะพานด่วน เกิดการสูญเสียตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผู้มีความสามารถในด้านบริหารการเงิน หรือหาเงินเก่งก็ตาม ก็จะมีอุปสรรค ปัญหา การสูญเสียหรือรายจ่ายที่ไม่คาดหวังเกิดขึ้น เหมือนกับคนที่ใส่สูทโก้หรูหน่อย เวลาร้อนขึ้นมาก็จะค่อย ๆ ปลดออกทีละชิ้นจนในที่สุดก็ต้องถอดออกหมด อยู่ที่ว่าทุนใครหนากว่ากัน เราอาจสังเกตดูได้จากแหล่งธุรกิจการค้าที่มีทางด่วน สะพานต่างระดับ พาดผ่านเช่น สุขุมวิท สีลม ถนนพระราม 9 ลงไปจนถึงถนนศรีนครินทร์ ธุรกิจหลายแห่ง อาคารสำนักงานให้เช่า ห้องอาหารใหญ่ ๆ ค่อย ๆ ปิดตัวลง มองดูด้วยสายตามันน่าจะดี แต่คนที่ลงทุนทำมักจะพบกับปัญหาและอยู่ได้ไม่นาน ในตอนต่อไปผู้เขียนจะยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น