ที่โอกินาวา แค่จามก็วิญญาณออกจากร่างได้?

ที่โอกินาวา แค่จามก็วิญญาณออกจากร่างได้?

ที่โอกินาวา แค่จามก็วิญญาณออกจากร่างได้?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ฮัดเช้ย!” “คุสุเก! (くすけー)”  “ฮัดเช้ย!”  “คุสุเก!” เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่ในโอกินาวา (沖縄) พูด “คุสุเก” เวลาเห็นคนจามไหมคะ? เช่นเดียวกันกับวัฒนธรรมฝรั่งที่มักพูด “หายไวๆ” หรือ “Bless you” เวลามีคนจาม ที่โอกินาวาก็มีคำพูดไว้พูดเพื่อเรียกขวัญคนจามเหมือนกันค่ะ แต่คุสุเกที่ว่านี้มีความหมายว่า “ไสหัวไป!” ค่ะ ทีนี้…เขาไล่อะไรกันแน่ล่ะ…?

เพราะที่โอกินาวา แค่จามก็วิญญาณออกจากร่างได้

ใช่ค่ะ ที่นี่มีความเชื่อว่าในจังหวะที่เราจามนั้นวิญญาณจะออกจากร่าง และในตอนนั้นเองวิญญาณไม่ดีจะถือโอกาสเข้าสิงร่างคนจาม ดังนั้นเพื่อนที่อยู่ด้วยจะช่วยพูดว่า “คุสุเก” เพื่อไล่วิญญาณร้ายไม่ให้เข้าสิงค่ะ

นิทานพื้นบ้านว่าด้วย–ฮัดชิ่ว!!

ขออภัยค่ะ…อะแฮ่ม ที่โอกินาวามีนิทานพื้นบ้านที่อธิบายที่มาของคำว่า “คุสุเก” อยู่ค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องมีคนจามแน่ๆ สักคนค่ะ วันนี้มาดูเวอร์ชั่นหนึ่งของนิทานว่าด้วยการจามกันค่ะ

วันหนึ่งชายชาวนาคนหนึ่งชื่อยามาโตะ (山戸) กำลังเดินทางกลับจากทำไร่ แต่ขณะเดินผ่านสุสานเช่นทุกวันเขาก็ได้ยินเสียงร้อง “อุแว้! อุแว้!” ด้วยความสงสัยว่าเด็กทารกที่ไหนมาร้องอยู่แถวสุสานนี้เขาจึงเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ที่กำลังร้องอยู่นั้นไม่ใช่เด็กทารก แต่เป็นแมวดำตัวหนึ่งซึ่งนั่งอยู่หน้าหลุมศพ แมวดำตัวนั้นร้องคล้ายเสียงเด็กทารกมากจนน่ากลัว แต่ที่น่ากลัวกว่าคือเสียงเยียบเย็นที่ดังมาจากในหลุมศพว่า “ร้องแบบนั้นแหละใช้ได้แล้ว…”

 

เมื่อได้ยินดังนั้นแมวจึงหยุดร้อง เสียงจากสุสานเอ่ยต่อว่า “พรุ่งนี้เวลาโพล้เพล้ เจ้าจงปีนขึ้นไปนั่งบนโขดหินและร้องเลียนเสียงเด็กทารก เมื่อทำแบบนั้นเจ้าเด็กทารกบ้านโนโซโกะ (野底) ก็จะจาม ให้ร้องต่อไปจนกว่าเด็กจะจามครบสามครั้งซะ เมื่อเด็กจามครบสามครั้งวิญญาณของเด็กก็จะหลุดออกจากร่างและเด็กนั่นก็จะตาย”

“แค่ทำให้จามครบสามครั้งก็พอสินะ” แมวดำเอ่ยถาม “ใช่ แต่ว่าจะมีมนุษย์หัวดีมาขวางด้วยการตะโกนว่าคุสุเกทุกครั้งหลังเด็กจาม ถ้าทำแบบนั้นคำสาปจะไม่มีผล ถ้าถูกขัดขวางก็ให้ล้มเลิกแล้วกลับมาเสีย” วิญญาณในหลุมศพบอก เมื่อได้ยินดังนั้นยามาโตะจึงวิ่งกลับบ้านด้วยความกลัวที่ได้ยินเสียงพูดของวิญญาณเป็นครั้งแรก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ตัดสินใจว่าจะช่วยเด็กทารกบ้านโนโซโกะให้ได้

วันต่อมายามาโตะจึงรีบสะสางงานในไร่ให้เสร็จแล้วกลับมาก่อน เมื่อถึงเวลาใกล้โพล้เพล้เขาจึงไปเยี่ยมบ้านโนโซโกะซึ่งต้อนรับเขาเป็นอย่างดี และเวลาโพล้เพล้ก็มาถึงพร้อมเงาแมวดำที่นั่งอยู่บนโขดหินตามที่วิญญาณสั่งไว้ แมวดำเริ่มร้องเลียนเสียงเด็กทารก สร้างความขนลุกให้กับคนในบ้าน และแล้วเด็กทารกก็เริ่มจาม

“ฮัดชิ่ว!”

“คุสุเก!”

“ฮัดชิ่ว!”

“คุสุเก!”

“ฮัดชิ่ว!”

“คุสุเก!”

เมื่อถูกขัดขวาง แมวดำจึงหยุดร้องแล้วหรี่ตาสีเขียวมองมายังยามาโตะอย่างเคียดแค้นรอบหนึ่งก่อนจะลงจากโขดหินและจากไป ฝ่ายสองสามีภรรยาบ้านโนโซโกะที่เห็นยามาโตะตะโกนคุสุเกทุกครั้งที่ทารกจามก็หัวเราะในความตลก แต่เมื่อยามาโตะเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟังทั้งสองจึงขอบคุณและเลี้ยงอาหารเป็นการตอบแทนที่ช่วยชีวิตลูกไว้ค่ะ ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่เห็นคนจามคนที่นี่ก็จะพูด “คุสุเก” กันค่ะ

แม้ว่าคนรุ่นใหม่ในโอกินาวาจะไม่ค่อยพูดกันแล้ว แต่ถ้าเป็นคุณตาคุณยายล่ะก็อาจจะยังพูด “คุสุเก” กันอยู่ค่ะ เพราะที่นี่เรื่องจามเรื่องใหญ่ค่ะ ฮ…ฮัดชิ่ว!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook