เผยคำทำนาย “โบว์ เบญจศิริ” ต้องช็อก “หมอดูอีที” ทักก่อนตายเรื่องคบ อนันดา!

เผยคำทำนาย “โบว์ เบญจศิริ” ต้องช็อก “หมอดูอีที” ทักก่อนตายเรื่องคบ อนันดา!

เผยคำทำนาย “โบว์ เบญจศิริ” ต้องช็อก “หมอดูอีที” ทักก่อนตายเรื่องคบ อนันดา!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับเป็นการสูญเสียที่ช็อกโลกเลยทีเดียว สำหรับข่าวการเสียชีวิต “หมอดูอีที” ในวัย 58 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งหมอดูอีทีเป็นหมอดูที่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหมอดูที่บรรดาผู้นำ เซเลบพม่าและเมืองไทยต่างใช้บริการมากมาย ว่ากันว่าทายแม่นยิ่งกว่าจับวาง มีรายได้สูงถึง 230 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งวานนี้รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ทางช่อง 28  ได้เปิดใจ ผิง สุภาวดี ทัพมาลัย” ไฮโซคนสนิทของหมออีที พร้อมด้วย โบว์ เบญจศิริ วัฒนา” นักแสดงที่เคยไปดูดวงกับหมอดูดังมาแล้ว พร้อมรับประกันความแม่น 

 

คุณผิงสนิทกับหมอดูอีที

ผิง .....ก็สนิทนะคะ เพราะเราพาคนไทยไปดูดวง นักการเมือง ดารา เซเลบ เราพาไป แต่เราจะมีพนักงานด้วย เราพาไปดูดวงที่โน่น

 

คุณทำเป็นทัวร์

ผิง ......ไม่ได้เป็นทัวร์ค่ะ เราพาเฉพาะวีไอพีไปดูดวงอย่างเดียว

 

คุณโบว์เป็นหนึ่งในหลายๆ สิบคน

โบว์ ......ใช่ มีคนไปเยอะมาก เพราะเมื่อก่อนโบว์ก็ฟังจากนักแสดงคนอื่นมาเหมือนกัน เขาบอกว่าไปดูสิ แม่นมาก ไปดูแล้วจะได้รู้ว่าชีวิตเราต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง แก้ไขยังไง เลยมีโอกาสไปดูด้วยค่ะ

 

คุณผิงรู้จักหมอดูอีทีได้ยังไง

ผิง .....ไปพม่ากับคุณมดดำ ไปเป็นสิบปีแล้วค่ะ คือเราไปทำบุญที่โน่นเป็นปกติของเราอยู่แล้ว เราก็รู้จักหมอดูอีทีมานานแล้ว แต่วันหนึ่งเมื่อสองปีเกือบสามปีที่เราเข้าไปเริ่มทำเอาคนเข้าไปดูดวงเพราะเรามีคำถาม เราอยากรู้ เราอยากพิสูจน์ คือเป็นคนชอบดูดวงมาก เป็นคนเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อเรื่องการถูกกำหนด เชื่อเรื่องว่าเวรกรรมมีจริงเพราะเราศึกษาเรื่องธรรมะและปฏิบัติมา 5-6 ปีเป็นอย่างต่ำ พอเสร็จเราก็คิดว่าคนสุดท้ายในชีวิตนี้ที่จะดูดวงเราได้ เราขอเลือกคนสุดท้ายก่อนตายคือขอบินไปพบหมอดูอีทีก่อนเลย เพราะเราอยากรู้ว่าลูกเทพที่เราเลี้ยงเนี่ย มันมีจริงมั้ย

 

คุณเลี้ยงลูกเทพ

ผิง .....ใช่ เราก็สับสนเรื่องลูกเทพกับกุมาร เราอยากรู้ว่าสิ่งที่เขาบอกว่าลูกเทพไร้สาระ บ้าหรือเปล่าไปอุ้มเนี่ย มีจริงมั้ย เรานัดคิวแล้วบินไปดูเลย ผิงเลี้ยงตั้งแต่เป็นเพื่อนกับแจ๊ค-จิลเรามีความเชื่อเรื่องกุมารมาตลอด แต่เหมือนยุคมันเปลี่ยน เหมือนเกาหลีเข้ามา เหมือนสรีระเปลี่ยนเป็นลูกเทพ เราก็เลี้ยงมาปีกว่าแล้ว แต่เราก็งง ว่ามีจริงหรือไม่มีจริง บางทีเราก็สัมผัสได้เอง บางทีฝัน ขอ เราก็ได้ เราคิดว่าก่อนจะงมงาย มีคนเดียวที่จะคอนเฟิร์มให้เราได้ เพราะเมืองไทยดูแล้วว่ามีจริง ไม่อยากให้กลายเป็นงมงาย

 

การไปดูหมอดูอีทีไม่งมงาย

ผิง .....มันมีการพิสูจน์จากผู้ใหญ่หรือนักการเมือง ดาราเซเลบเป็นสิบๆ ปี ที่บอกว่ามีลูกเท่านี้ สองคนจะแต่งงาน มันมีมานานแล้วค่ะ

 

เขาดูยังไง

ผิง ....ไปดูปุ๊บเขาจะไม่ดูวันเดือนปีเกิด เราตั้งชื่อไว้ตุ๊กตาเทพไว้อยู่แล้ว แต่เขาไม่ถามอะไร การดูดวงของหมอดูอีทีคือนั่งอยู่เฉยๆ ความพิเศษคือเห็นหน้าคุณหนุ่มต้องเปิดรหัสชีวิตโดยการดูเลขธนบัตรก่อน ความเชื่อของหมอดูอีทีคือไม่สามารถไปดูดวงหมอดูอีทีได้ ถ้าไม่มีบุญสัมพันธ์กับท่าน ท่านมาเพื่อดูแลคนที่มีบุญสัมพันธ์ มาเพื่อดูแลช่วยเหลือ อย่างคุณหนุ่มไป พาธนบัตร บางคนไปพิสูจน์พาไปแสนนึง บางคนเอาไปใบเดียว บางคนเอาไปเยอะมาก ซึ่งเขาจะเปิดรหัสชีวิตแค่ใบเดียวเท่านั้น ก็ตรง 7 ตัวตรงเป๊ะ ตรงหมดเลย

 

คุณโบว์ก็เอาธนบัตรไป

โบว์ ...... โบว์พกเงินไทยไปปกตินี่แหละค่ะ ทีแรกเดินขึ้นไปข้างบนเขาก็บอกว่าให้หยิบแบงค์ใบหนึ่งใบไหนก็ได้ ในกระเป๋าตังค์เรา เอาออกมาก่อน เสร็จแล้วหมอดูอีทีจะเดินเข้ามา แล้วเขาจะเขียนเลขแล้วบอกให้โบว์หยิบแบงค์ที่โบว์เลือกมาไว้ในมือ แล้วเขาก็กางดูว่าเลขตรงกันมั้ย เขาเขียนไว้ก่อนเลยค่ะ ในกระเป๋ามีแบงค์พันใบหนึ่ง ห้าร้อยใบหนึ่ง แล้วก็แบงค์ยี่สิบหลายๆ ใบ เขาเขียนมาเลย

 

คุณเลือกมาก็ตรง

โบว์ ....เขาบอกว่าหยิบแบงค์ 500 ในกระเป๋ามา เขาเลือกเลยว่าแบงค์ 500 ซึ่งมีใบเดียว มันก็ตรงทุกตัวเลข

 

เป็นแบบนี้กับทุกคนมั้ย

ผิง.....ทุกคนค่ะ แต่บางคนก็สองใบ ผิงเป็นคนเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ ที่ทำผิดกฎ ปีหนึ่งดู 4 ครั้ง กฎดู 3 ครั้งเท่านั้น

 

เขาไม่ว่าคุณบ้าเหรอ

ผิง ......คืออยากพิสูจน์ ใบแรกเขาบอกว่า 5 เดือนเกิด อีก 6 เดือนเกิด อีก 8 เดือนเกิด เราจะมาทำการบ้านเอาไว้ก่อน พาคนไป ถ้าเราไม่พิสูจน์เหมือนเราไปหลอก พอเกิดขึ้นจริงเราก็ไปอีก ต้องพิสูจน์อย่างต่ำ 3 ครั้งขึ้น

 

ประวัติความเป็นมาหมอดูอีที

ผิง .....คุณพ่อเขามีฐานะอยู่แล้วค่ะ คุณพ่อเป็นนายแบงค์มีพี่น้อง 3 คน อีทีเป็นคนที่ 2 มีพี่สาวคนหนึ่งคอยจัดคิวอยู่ข้างล่าง น้องสาวจะนั่งแปลภาษาใบ้ ภาษาอีที ว่าเขาเขียนมาเป็นแบบนี้แล้วจะหมายความว่าอะไร ก็แปลมาเป็นภาษาพม่า แล้วแปลมาให้คนไทยฟังอีกที ต้องมีล่ามอยู่ 4 คน รวมหมอดูอีทีเป็น 4 ต่อการดู  1 ครั้ง

 

ทำไมเรียกว่าอีที

ผิง ...จริงๆ เขาชื่อเอติ อิติ แต่คนไทยเรียกติดปากว่าอีที แต่หน้าตาท่านก็เหมือนมนุษย์ต่างดาวที่เรารู้จัก มือท่านจะหยิกๆ เวลาจับปากกาเขียน ขาก็จะเดินตรงไม่ได้ ต้องเขย่งตลอดเวลา  เป็นคนพิการ แต่ตามองเห็น มือก็อย่างที่บอก ก็เขียนได้ ขาเดินเขย่งๆ เหยียบพื้นไม่ได้

 

แต่หมอดูอีทีหูทิพย์

ผิง .....ท่านจะสื่อเฉพาะ เหมือนท่านก็เป็นล่าม สื่อกับเทพเฉยๆ ท่านก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษให้เป็นคำๆ แล้วไม่ต้องไปถาม ท่านก็เขียนเลย ท่านจะรู้ในสมองคุณหนุ่มเลย โดยไม่ต้องถามว่าเป็นเรื่องใคร ไปเห็นปุ๊บก็เขียนเลยว่าภรรยาชื่ออะไร ลูกชื่ออะไร

 

จริงมั้ยคุณโบว์

โบว์ .....จริงค่ะ เขาจะเขียนเลยว่าเราชื่ออะไร เกิดวันเดือนปีไหน โบว์ไม่ได้พูดอะไรซักคำ เขาเริ่มเขียนเรื่องอื่นๆ ที่ใจโบว์อยากจะไปถาม มันเป็นคำถามแรกที่อยู่ในหัวใจโบว์แล้วโบว์ไม่ทันได้อ้าปากถามเลย เขาเขียนมาถูกเป๊ะเลย โบว์ตกใจ

 

คุณผิงทำไมต้องไปดูหมอดูอีที หมอดูคนอื่นไม่ได้เหรอ

ผิง .....คือหมอดูอีทีท่านไม่ได้เขียนกว้างๆ จะเขียนเป็นชื่อคน เป็นตัวเลข เป็นวันที่ระบุชัดเจน ให้เราเตรียมตัว หรือระวังเอาไว้เลย เขาจะเขียนวันเดือนปีเกิดให้หมดเลย

โบว์......เหมือนเขาอ่านใจเราออก เขารู้ว่าใจโบว์คิดอะไร แล้วเขาก็เขียน จากสิ่งที่เราคิดว่าถ้าหมอดูไม่พูดเรื่องนี้ เราจะถาม แต่ว่าเรื่องแรกเขาก็พูดเลย

 

 

แต่เคสที่อึ้งมากคือเคสหมูพิมพ์ผกา

โบว์ .....ใช่ค่ะ พี่หมูเป็นคนเล่าเอง พี่หมูงง อเมซิ่ง พอดีวันนั้นน้องนายลูกชายเขาบินไปด้วย ตอนนั้นก็ดังแล้วแต่ไม่ได้พีคขนาดนี้ บินไปด้วย นั่งรอคุณแม่ อ่านบทละครอยู่ข้างล่าง ก็ขึ้นชื่อน้องนายมาก่อน บอกว่าลูกชายชื่อน้องนาย เขาจะดังมาก จะได้เล่นละครกับป้าแจ๋ว ละครที่เล่นต้องไปถ่ายที่ประเทศออสเตรเลีย และจะดังมาก คนจะรู้จักจากเรื่องนี้ พี่หมูยังไม่ทราบว่าน้องนายต้องถ่ายละครเรื่องนี้ เขายังไม่รู้ เขาก็งงแต่เรื่องอื่นเขาเขียนหมดตรงอยู่แล้ว แต่อเมซิ่งตรงนี้ พี่หมูกลับขึ้นรถตู้กับน้องนาย ว่าเรื่องเดอะเกลส เมริเออร์ลีฟ มันคืออะไรเหรอ น้องนายก็บอกว่าอ๋อ ก็นี่ไง ให้ดูคลิป เป็นฉากดำน้ำของละครเรื่องนี้ ที่น้องนายจะต้องบินไปถ่ายละครที่ออสเตรเลีย

 

ตรงเป๊ะกับสิ่งที่เขาเขียน

โบว์ ......ใช่ พี่หมูยังไม่รู้เลย น้องนายก็เอาสคริปต์ให้ดู ก็ตรงตามนั้น จริงๆ น้องนายบินไปด้วยไม่ได้ พี่หมูต้องไปคนเดียว แต่อยู่ดีๆ หมอดูอีทีเลื่อนวันให้เร็วขึ้น เขาเลยได้ไป

 

เขาสื่อสารกับเทพ

โบว์ .....อันนี้ไม่มีใครบอกได้ แต่สถิติที่เราไปดูเหมือนท่านสื่อสารกับเทพชเวดากอง ถ้าจะแม่นต้องไปนอน ขึ้นไปไหว้ขอขมาชเวดากองก่อน แล้วเช้าไปดูดวง จะแม่นมาก แต่ถ้าบินไปดูเลยความแม่นยำอาจจะ 90 แล้วแต่สมาธิของเราในวันนั้น

 

คุณโบว์เชื่อมั้ย

โบว์ ......เชื่อ ก็สนิทใจประมาณหนึ่งเพราะโบว์ทราบเรื่องหมอดูอีทีจากพี่หมู พิมพ์ผกา ทีแรกโบว์ไม่ได้มีจิตที่ฝักใฝ่เรื่องการดูดวง แต่ทีผ่านมา โบว์สนิทกับ พี่หมู พิมพ์ผกา พี่หมูก็ชอบโทรมาบิวต์ว่าแกต้องไปดู จะได้รู้ว่าชีวิตต้องทำอะไร เพราะที่ผ่านมาไปดูมันแม่นมากโบว์ต้องไป ก็เป็นเพราะพี่หมู อย่างที่เรียนตรงมาก

 

เขาเขียนชื่อใครเป็นชื่อแรก อนันดา เหรอ

โบว์ ....พี่เล็ก เป็นคนที่โบว์รักเหมือนแม่คนหนึ่ง เขาเขียนว่าเล็กเลย โบว์จะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องพี่เล็ก โบว์ตัดสินใจอะไรบางอย่างที่จะตัดสินใจทำ เป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ของโบว์ เขาก็เขียนขึ้นมาเลยว่าเล็ก ถ้าโบว์ไปอยู่กับพี่เล็กชีวิตโบว์จะดี อดีตชาติเป็นครอบครัวของโบว์ ซึ่งโบว์นับถือเคารพเขามากๆ

 

ความรักล่ะ

โบว์ ....ไม่ได้ตั้งใจจะไปดูเรื่องความรัก โบว์แค่อยากฟังว่าเขาจะพูดถึงโบว์ว่ายังไง แต่โบว์ก็มีเรื่องที่โบว์ตั้งใจจะถามในเรื่องงานและความรัก แต่เรื่องพี่เล็กเนี่ย โบว์มีการเอารูปของผู้ชายหนึ่งคน

 

อนันดาหรือเปล่า

โบว์ ....(หัวเราะ) ก็ได้ค่ะ อนันดา ก็ได้

 

เขาบอกว่ายังไง

โบว์ .....ต้องบอกด้วยเหรอ (หัวเราะ) หลังจากที่โบว์ส่งโทรศัพท์เป็นรูป อนันดา เขาก็เขียนว่าโซโซ (หัวเราะ)

ผิง .....ในกรณีที่เขียนแบบนี้ แสดงว่ามีการคบกัน แต่ไม่ดีไม่ร้าย

โบว์......ไม่ได้ดีมาก แต่ไม่ได้แย่

ผิง....ถ้าแต่งงานเขาจะเขียนเลยว่าจะแมรี่ในเดือนนี้ จะมีลูกชื่อนี้ เขาจะเขียนเลย

โบว์.....เขาไม่ได้เขียนแบบนั้น เขาเขียนแค่คำเดียว โซโซ (หัวเราะ)

 

อย่างอื่นๆ ที่เซอร์ไพรส์

โบว์.....พี่เล็กเขาจะมีคนสนิทคนหนึ่งชื่อพี่ป้อม ใจโบว์ไม่ได้คิดอะไรกับพี่ป้อมเลยนะ แต่เขาเขียนขึ้นมาว่าป้อมไว้ใจได้ ก่อนหน้านี้โบว์อยากไปหัวหินซีสเปซมาก เป็นสถานที่หนึ่งซึ่งไว้พักผ่อนสมอง อยู่ติดริมทะเล วันที่โบว์ต้องไปพม่าเช้าวันหนึ่งก็หงุดหงิดนิดหน่อย สุดท้ายหมออีทีเขียนว่าหัวหิน ซีสเปซ มัสโก นี่โคตรตกใจ ว่าทำไมถึงเขียนว่ามัสโก เพราะมันอยู่ในใจ คิดว่าจะไปๆ แล้วไม่ได้ไป เขาเขียนให้ต้องไป โบว์ก็ตกใจ แล้วก็ไป

 

ล่าสุดหมอดูเสียชีวิต สื่อลงว่าเขารู้วันตายตัวเองจริงหรือเปล่า

ผิง....ตัวท่านเองท่านไม่รู้ แต่ว่าที่บ้านท่านรู้อยู่แล้ว คือท่านหายใจไม่ออก ดูดวงแล้วต้องพักเยอะ เป็นโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ บินไปรักษาบ่อยที่สิงคโปร์ รู้ตัวกันมา 3 เดือนหลัง ที่ทุกคนก็เตรียมทำใจ

 

แต่สื่อเขียนว่าหมอดูอีทีรู้ว่าต้องเสียชีวิตในวันเวลาเท่านี้

ผิง.....ไม่ค่ะ ไม่รู้ตัว เพราะจริงๆ เขาต้องตื่นเช้ามืด เพราะกฎการดูดวงไม่เกิน 7 โมงเช้าต้องไปรอ หมอดูต้องดูไม่เกินเที่ยงวัน สูงสุดดู 6 คน กฎคนแรกคือพม่าก่อน แล้วต่างชาติอีก 5 คน

 

ยืนยันหมอดูอีทีไม่รู้วันตาย

ผิง....ไม่รู้ค่ะ คุยกับที่บ้านเขาค่ะ เราถามความจริงตลอด เพราะวันที่ท่านเสียเราอยู่เมืองไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook