สงครามโลกครั้งที่3 คำทำนายสุดสะพรึง!

"นอสตราดามุส กับ สงครามโลกครั้งที่ 3" คำทำนายสุดสะพรึง! ที่ไม่อยากให้เป็นจริง

"นอสตราดามุส กับ สงครามโลกครั้งที่ 3" คำทำนายสุดสะพรึง! ที่ไม่อยากให้เป็นจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

สงครามโลกครั้งที่ 3

"สงครามโลกครั้งที่ 3" คือสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะรู้ว่าผลกระทบจากสิ่งที่เรียกว่า สงคราม นั้น จะทิ้งรอยแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจไว้กับคนจำนวนมากที่ต่อให้ใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตก็ไม่อาจเยียวยาได้ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างหลายประเทศที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ ที่ยังไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร ทำให้เราหวั่นเกรงกับคำนี้มากขึ้น ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ยินคำนี้ แต่ทุกครั้งที่ได้ยินการวิเคราะห์ต่างๆ รวมถึงคำทำนาย ก็ได้แค่คิดว่า ขอให้ไม่มีอะไรเป็นไปตามคำทำนายนั้น

ในบรรดาคำทำนายทั้งหมด ชื่อที่เราได้ยินกันบ่อยที่สุดก็คือ นอสตราดามุส คำทำนายของเขาที่เขียนขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ยังได้รับการนำมาตีความและอ้างอิงจนถึงทุกวันนี้และโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันนี้

นอสตราดามุส แห่งบัลแกเรีย

ชื่อของ นอสตราดามุส อาจเป็นอีกหนึ่งชื่อที่ใครหลายๆ คนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะของผู้ที่ทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองในยุคต่างๆ เอาไว้ได้อย่างแม่นยำ เขาคนนี้จึงได้กลายเป็นนักพยากรณ์ที่มีชื่อก้องโลกไปในทันที แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อนี้สักเท่าไหร่ วันนี้ เราจะนำมาให้ได้รู้จักกับบุคคลแห่งประวัติศาสตร์คนนี้กัน รู้หรือไม่ว่า นอสตราดามุส ไม่ได้เป็นหมอดู หรือนักทำนายมาตั้งแต่ต้น แล้วทำไม ? เขาถึงกลายมาเป็นอย่างเช่นที่เราได้ยินกิตติศัพท์กันอย่างทุกวันนี้ …

นอสตราดามุส หรือชื่อจริงๆ ของเขา คือ มิเชล เดอ นอสตราดาม (Michel de Nostredame) เป็นแพทย์ชาวฝรั่งเศสที่มีเชื้อสายยิว เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1503 ที่เมืองแซงต์ เรมี จบการศึกษาด้านการแพทย์ จาก มหาวิทยาลัยมองต์เปลีเยร์ ภายหลังได้รับขนานนามว่าเป็น ราชาโหรโลก หรือปรมาจารย์แห่งโหราศาสตร์เอกของโลก

เมื่ออายุได้ 15 ปี นอสตราดามุส ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยอาวีญง ในระดับปริญญาตรี เขาเล่าเรียนในวิชากลุ่มไตรศิลปศาสตร์ตามแบบแผนที่ประกอบไปด้วย วิชาไวยากรณ์วาทศาสตร์ วิชาตรรกศาสตร์ โดยเป็นการเรียนที่มากกว่ากลุ่มวิชาจตุรศิลปศาสตร์ อันได้แก่ วิชาเรขาคณิต วิชาคณิตศาสตร์ วิชาสังคีตศาสตร์ และวิชาดาราศาสตร์ แต่เมื่อเรียนไปได้ไม่ถึงปีก็เกิดการระบาดหนักของกาฬโลกจนเป็นเหตุให้ต้องปิดมหาวิทยาลัย และนอสตราดามก็ต้องอพยพจากอาวีญงทันที

นอสตราดามุส ได้อพยพไปอยู่ตามชนบทเพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรและประกอบอาชีพเป็นเภสัชกรถึง 8 ปี หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มเบนเขมไปศึกษาในเรื่องของไสยศาสตร์ เมื่อได้รู้ถึงกระแสนิยมในด้านนี้แล้ว เขาจึงได้เขียน กาลานุกรม สำหรับปี 1550 ขึ้นเผยแพร่ โดยใช้ชื่อสกุลของตัวเองที่เป็นภาษาละตินว่า Nostradamus ซึ่งกาลานุกรมนี้จะเป็นการรวบรวมคำพยากรณ์และปีปฏิทินที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จึงเริ่มมีบุคคลที่มีชื่อเสียงและบุคคลสำคัญแห่แหนกันมาให้นอสตราดามุสทำนายโชคชะตาราศีให้ รวมถึงขอให้ใช้ญาณทิพย์ในการทำนาย

นอสตาราดามุส กับ การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3


หลังจาก นอสตราดามุส ทำนายเรื่องการเกิด สันนิบาตชาติ ที่จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ ณ ทะเลสาบเลอมัน จะทวีความดุเดือดขึ้น หนึ่งวันจะยืดยาวไปเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นปี จากนั้นทุกอย่างก็จะพังทลายลง เจ้าหน้าที่จะออกมาด่าว่าให้อำนาจที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ใดๆ ได้ ไม่นาน นอสตราดามุส ก็ได้ทำนายต่อเนื่องว่า จะเกิดความวุ่นวายขึ้นทางบกและทางทะเล สงครามกลางท้องทะเลจะยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา เพลิง สัตว์ เครื่องมือ เครื่องจักร จะทำให้เกิดความหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น เมืองนางาซากิและเมืองฮิโรชิมาซึ่งตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือจะประสบภัยในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เกิดความหิวโหย เกิดโรคภัย ผู้คนในเมืองจะถูกฟาดฟันและถูกขับไล่ออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นอมตะ จนเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นเป็น สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม และวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2488 มีการทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองนางาซากิและเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก หลังจากที่มีการทิ้งระเบิดได้ 6 วัน ญี่ปุ่นจึงลงนามในตราสารประกาศยอมแพ้สงครามมหาสมุทรแปซิฟิกที่นับเป็นการยุติสงครามโลกครั้งที่สอง อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488

นอสตราดามุส กับ สงครามโลกครั้งที่ 3สงครามโลกครั้งที่3นอสตราดามุส กับ สงครามโลกครั้งที่ 3

หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผู้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3?

“The false trumpet concealing madness
will cause Byzantium to change its laws.
From Egypt there will go forth a man who wants
the edict withdrawn, changing money and standards.”

[Century I: 40]

เรื่องของทรัมป์ในคำทำนายของนอสตราดามุสนั้นมีการตีความโดยลงลึกไปถึงรากศัพท์กันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า คำว่า trumpet ในที่นี้ จะหมายถึงทรัมป์หรือไม่ ซึ่งหาก false trumpet นั้นหมายถึงทรัมป์จริง ก็หมายความว่าการจุดชนวนของเขาจะมีผลไปถึงประเทศในยุโรปด้วย

หรือ The Great City จะหมายถึงอเมริกา?

The republic of the great city
Will not want to consent to the great severity:
King summoned by trumpet to go out,
The ladder at the wall, the city will repent.

[Century 3: 50]

The republic of great city ในข้อความส่วนนี้มักจะมีคนตีความว่าหมายถึงสหรัฐอเมริกา และเมื่อมีการนำมาโยงกับคำว่า trumpet ก็ยิ่งทำให้มีคนเชื่อว่า ทรัมป์จะเป็นผู้สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของคนอเมริกันอีกมาก นอกจากนี้ยังมีการตีความในส่วนอื่นๆ จากคำทำนายของนอสตราดามุสอีกว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองมหาอำนาจใหญ่และอาจกินเวลายาวนานถึง 27 ปีกว่าจะยุติลง

อย่างไรก็ตาม เพราะคำทำนายของนอสตราดามุสทั้งหมดเป็นการเขียนในลักษณะที่ต้องอาศัยการตีความ จึงมีนักวิชาการและนักวิเคราะห์การเมืองอีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่า การตีความที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นความพยายามที่จะโยงข้อมูลเข้ากับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและทัศนคติของตัวเอง จึงไม่มีใครฟันธงได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่เขียนขึ้นเมื่อหลายปีก่อนนั้นคืออะไร

เหมือนกับที่เราคงไม่สามารถฟันธงว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันได้เช่นกัน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook