“สิริวัฒนาพยากรณ์เพื่อการศึกษา” รวมที่สุดของศาสตร์การทำนาย 20-28 ก.พ.นี้ ณ สยามพารากอน

โหราศาสตร์ นับเป็นศาสตร์การทำนายโชคชะตา อนาคต และปรากฏการณ์ต่างๆ โดยใช้การอ้างอิงจากการโคจรของดวงดาว เวลาตกฟาก เวลาเกิด รวมถึงพลังแห่งธรรมชาติ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่อยู่คู่กับความเชื่อของชาวไทยมาอย่างยาวนาน เหตุนี้มูลนิธิสิริวัฒนาเชสเชียร์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงร่วมกับ  ศูนย์การค้าสยามพารากอน  จัดงาน “สิริวัฒนาพยากรณ์เพื่อการศึกษา”  เพื่อรวบรวมที่สุดของศาสตร์แห่งการทำนายแขนงต่างๆ เชิญเหล่านักโหราศาสตร์ชั้นนำของประเทศไทยรวม 40 คนมาร่วมไขกุญแจเปิดประตูสู่การทำนายโชคชะตา โดยนำรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

จากกระแสตอบรับเป็นอย่างดีของผู้สนใจการพยากรณ์โชคชะตาราศีและผู้มีจิตศรัทธาสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการกุศลอย่างต่อเนื่อง คุณหญิงตรึงใจ อิฐรัตน์ ประธานมูลนิธิสิริวัฒนาเชสเชียร์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์  และ อารยา จิตตโรภาส ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงได้ร่วมกันจัดงานขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยครั้งนี้ใช้ชื่องานว่า  “สิริวัฒนาพยากรณ์เพื่อการศึกษา” ซึ่งจะนำรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อทรงนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษาต่างๆ ของพสกนิกรไทยต่อไป

ก่อนจะได้พบกับที่สุดแห่งการทำนายหลากหลายแขนง ในงาน “สิริวัฒนาพยากรณ์เพื่อการศึกษา” อ.คฑา ชินบัญชร นักโหราศาสตร์ชื่อดังของเมืองไทย กล่าวถึงภาพรวมของดวงชะตาในปีไก่ทองไว้ว่า “ปีนี้เป็นไก่ธาตุทอง แต่ตัวปีนักษัตรนั้นเป็นธาตุไฟ จึงส่งผลให้เป็นปีที่ต้องระวังสองเรื่องคือ เรื่องอัคคีภัย กับเรื่องของอุบัติเหตุและอารมณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ตกอยู่ในดวงปีปะทะชนหรือปีชง โดยจะส่งผลในเรื่องของอารมณ์ คำพูด การตัดสินใจในเรื่องที่ค่อนข้างรุนแรง ส่วนเรื่องเด่นของปีนี้ภาพรวมคือ งานด้านการศึกษา งานด้านการบันเทิง และด้านเศรษฐกิจ แม้จะดูเหมือนว่าจะยังอยู่ในภาวะของเศรษฐกิจหดตัว แต่การหดตัวนี้ส่งผลให้คนรู้จักระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น การกระจายรายได้จึงเป็นไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือตามความจำเป็นมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องดีส่งผลให้ในปีต่อไปคือ ปีจอ และปีกุนนั้นจะมีความมั่นคงและเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนั้น อ.คฑา ชินบัญชร ยังกล่าวถึงเคล็ดลับของการแก้ชงในปีไก่ทองนี้ไว้ด้วยว่า .....จริงๆ แล้วปีชงหรือปีปะทะชนนั้นเกิดจากการที่พลังของดวงดาวกับปีนักษัตรไม่ถูกกัน ไม่ใช่ปีที่ดีหรือไม่ดี แต่จะเป็นปีที่ส่งผลในเรื่องของชีวิตที่บอกให้เราควรต้องระมัดระวังให้มากขึ้นในเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ อารมณ์ ความขัดแย้ง ซึ่งถ้าเป็นไปตามหลักของพุทธศาสนาแล้วคือ การดำเนินชีวิตด้วยการรู้เท่าทันจิต รู้เท่าทันปัจจุบัน และมีสติในการดำเนินชีวิต ส่วนวิธีแก้เคล็ดสำหรับคนเกิดปีชงคือ ฝากดวงชะตากับองค์เทพเจ้าไท้ส่วนเอี้ย หมั่นทำบุญ สวดมนต์ และทำทานให้มาก เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นการกระตุ้นเตือนจิตเตือนใจให้เป็นคนดี เท่านี้ก็จะเปลี่ยนปีชงให้เป็นชิลล์ได้ง่ายๆ สบายๆ

นอกจากนั้นภายในงาน “สิริวัฒนาพยากรณ์เพื่อการศึกษา” ยังมีนักพยากรณ์ศาสตร์ต่างๆ ที่มีชื่อเสียงอยู่ในแถวหน้าของวงการโหราศาสตร์ของประเทศไทย มาร่วมทำนายโชคชะตาอีกมากมายอย่าง เช่น  อาจารย์มโน อึ้งคมเมธา หรืออาจารย์ฮั่น มาจอง นักพยากรณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ “ศาสตร์ไพ่จีนโบราณ” ซึ่งมีในประเทศไทยไม่ถึง 10 คน โดยการใช้ศาสตร์ไพ่จีนโบราณทำนายนั้น มีรากฐานเดียวกับศาสตร์ของไพ่ยิปซี มีโครงสร้าง และจุดกำเนิดมาจากโมเดลของดวงดาว สามารถทำนายดวงชะตาโดยการกำหนดจิต และให้เจ้าชะตาเลือกไพ่จีน 12 ชิ้น มาวางเรียงเป็นวงกลมบนแผ่นไม้ อันเป็นตัวแทนของความหมายในการพยากรณ์โชคชะตาของเจ้าชะตาทั้ง 12 เดือน

อาจารย์ปิยะมาศ ปรัชญาเกรียงไกร นักพยากรณ์ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์ “ระบบจักรวาล” หรือที่คนโบราณเรียกกันว่า “ดวงอีแปะ” ศาสตร์ที่ผสมผสานความรู้หลากหลายชาติ ทั้งพม่า อินเดีย ไทย และจีน หลักการของโหราศาสตร์ระบบจักรวาลนั้นจะใช้การจำลองภาพของจักรวาลพร้อมด้วยตำแหน่งของดาว หลักการทำนายต่างๆ และศาสตร์ชาวบ้านตามระบบจันทรคติ โดยการกรอกวันเดือนปีและเวลาเกิดของเจ้าชะตาลงไปในโปรแกรมพยากรณ์สุดไฮเทค คิดค้นโดยอาจารย์สุรพล พฤกษ์ไพบูรณ์ แล้ววิเคราะห์ดวงออกมาประกอบกับแผ่นหมุนลัคนา การใช้โปรแกรมพยากรณ์ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์นี้นอกจากช่วยให้ผู้พยากรณ์ผูกดวง จำลองแผนภาพดวงดาว และเก็บสถิติได้สะดวกแม่นยำมากขึ้นแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้วดาราศาสตร์มีพื้นฐานอยู่บนคณิตศาสตร์ สถิติและการวิเคราะห์โดยแท้จริง

อาจารย์สุทธินันท์ พงศ์สวัสดิ์ นักพยากรณ์ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์ “เลข 7 ตัว ฐาน 6” ซึ่งเป็นวิชาโหราศาสตร์ไทยที่มีมาแต่โบราณ ใช้วันเดือนปีและเวลาเกิดในการทำนาย ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำว่าพื้นดวงเดิมของเจ้าชะตามีจุดเด่นหรือด้อยอย่างไร รวมทั้งสามารถทำนายดวงชะตาจรและดวงชะตาในช่วงอายุใดอายุหนึ่งได้ ศาสตร์นี้เชื่อว่าคนเราเกิดมาเป็นเช่น “สะเก็ดดาว” และวันเดือนปีเกิดนั้นรวมกันเป็น “กำลังของดาว” หรือพื้นดวง ดวงของคนเราจึงเกี่ยวข้องกับอิทธิพลของดวงดาวในจักรวาลทั้งสิ้น เช่น พระอาทิตย์เป็นดาวที่ให้พลังงาน เจ้าชะตาที่มีดาวพระอาทิตย์ด้านเด่นจึงมักจะมีชีวิตที่ดี ฯลฯ

อาจารย์กามล แสงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญการใช้คริสตัลเป็นสื่อกลางในการพยากรณ์ “ศาสตร์แห่งคริสตัล”  คือความสมดุลย์แห่งแผนภูมิชีวิต เชื่อมต่อกับจิตใต้สำนึก เจาะลึกเข้าถึงปัญหาที่แฝงอยู่ภายใน  บ่งบอกบุคลิกภาพ  นิสัยส่วนตัว  โดยมีพื้นฐานการพยากรณ์มาจาก ยิปซี โหราศาสตร์สากล และฮวงจุ้ยสี ผ่านคริสตัล 125 เม็ด 5 เฉดสี ขาว ฟ้า เขียว แดง น้ำตาล  “คริสตัล” จะแนะนำให้เราเห็นถึงจุดแข็ง และจุดอ่อนของตนได้อย่างชัดเจน   การดวงตก  หลายคนอาจมองว่าชีวิตตกต่ำอับโชค  แต่ในศาสตร์แห่งคริสตัล กลับให้แง่คิดว่ามันคือช่วงของการพัฒนาตนเอง  ให้ยอมรับ ปรับปรุงและแก้ไข ให้เราชนะดวงได้ในเส้นทางของตนเอง  โหราศาสตร์เป็นไกด์ไลน์ เป็นแผนที่ชีวิต ส่วน “สติ” คือเพื่อนแท้

 ภายในงานยังมีนักพยากรณ์จากทีมงานสิริวัฒนาพยากรณ์หลากหลายศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนทำนายโชคชะตาราศีในรูปแบบต่างๆ ตลอดทั้งงาน อาทิ สังคม ฮอหรินทร์, พิศิษฐ์ จิรวานิชไพศาล, ธนัญธร บุญจักรวาล, เจษฎา คำไหล, นริศ สหชาติศิริ, มดดำ มะลิลา, เจน ธูปพยากรณ์, รัตนมณี อียิปต์มนตรา, วงศ์วริศ เอี่ยมสำอางค์ และอนงค์นาถ คูดิษฐาเลิศ เป็นต้น

ผู้สนใจเข้ารับการพยากรณ์สามารถซื้อบัตรพยากรณ์แบบวันต่อวันในราคาใบละ 400 บาท  ในงาน “สิริวัฒนาพยากรณ์เพื่อการศึกษา” โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 28 กุมภาพันธ์2560 ตั้งแต่เวลา 10.30-19.00 น. ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อโทร. 0-2251-6458