กรรมที่ทำให้ "อาภัพอับโชค" และเคล็ดในการบรรเทา

กรรมที่ทำให้ "อาภัพอับโชค" และเคล็ดในการบรรเทา

กรรมที่ทำให้ "อาภัพอับโชค" และเคล็ดในการบรรเทา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายท่านอาจจะมีบ่อยครั้ง ที่อาจจะน้อยใจในโชคชะตา เห็นคนอื่นเขามีโชคมีลาภอยู่เป็นประจำแต่ตัวเรากลับไม่มีอย่างผู้อื่น บางคนอาจจะไม่ได้เป็นคนดีหรือแม้แต่ทำงานเก่งกาจอะไรเลย แต่ทำไมเขาจึงได้ดีมีโชคหรือมีคอยช่วยเหลือเขาตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะบุญเก่าของเขาที่สะสมเอาไว้เมื่อในภพชาติก่อน พอมาในชาตินี้บุญนั้นย้อนกลับมาส่งเขาเช่น คนที่จู่ ๆ ถูกหวยรวยเป็นล้านๆ เป็นมหาเศรษฐีได้ในคราวเดียว ก็เพราะกรรมดีที่เคยได้ทำบุญไว้โดยมาเป็นกรรมตัดรอนฝ่ายกรรมดีที่มาพลิกชีวิตจากที่จนให้รวยในพริบตา หรืออยู่ดีๆ ก็มีคนเอาโชคเอาลาภมาให้

เพราะในอดีตชาติ อาจจะเคยทำบุญกับพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าพระอรหันต์ พระอริยสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากๆ เช่น ใส่บาตรกับท่านที่กำลังออกจากนิโรธสมาบัติ คือ ได้เคยถวายทรัพย์ ข้าว น้ำอาหารเพื่อช่วยบำรุงท่านโดยทำแบบไม่เสียดายแม้แต่น้อย เพียงเพราะต้องการจะทำบุญด้วยใจเท่านั้นจริง ๆ หรือเป็นผู้ที่ได้ทำบุญโดยไม่ตั้งใจเมื่อเดินผ่านไปยังกองบุญงานบุญทั้งหลายเช่น งานทอดกฐิน ผ้าป่า เห็นแล้วเกิดศรัทธาอยากทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจึงได้ทำบุญไป หรือทำทานใหญ่ให้กับคนหมู่มากได้ประโยชน์ในทานนั้น เป็นต้น

กรรมเหล่านี้เองที่เป็นตัวสนับสนุนส่งเสริมให้คนบางคนมีโชคลาภอยู่เสมอบางคนก็มีลาภก้อนใหญ่เสียด้วย ดังนั้นเมื่อพิจารณาเหตุของคนที่ถูกหวยมีลาภก็ลองคิดย้อนกลับดูว่าเหตุใดเราจึงอาภัพอับโชคไม่มีลาภลอยเช่นเขาบ้างก็เป็นเพราะกรรมดังนี้

เหตุจากกรรมเก่า

เหตุที่ทำให้ไม่มีโชคเลยก็เพราะในอดีตชาติหรือในชาติปัจจุบันไม่เคยทำบุญทำกุศลด้วยทานใด ๆเลยแม้เพียงเล็กน้อย หรือจะทำทานอะไรก็ให้แบบเสียไม่ได้ ให้โดยที่ยังมีความตระหนี่อยู่ในใจ หรือไม่เคยช่วยเหลือใครมาก่อน ไม่เคยเกื้อกูลใครด้วยจิตใจเมตตาอารีอย่างแท้จริงหรือทำบุญทำทานเพื่อเอาหน้า เอาชื่อเสียง (จอมปลอม)

หรือหากจะช่วยใครแล้วต้องมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องจึงจะยอมทำ คือหวังในสิ่งตอบแทนอยู่เสมอ หากเป็นผู้เคยทำทานด้วยแก้วแหวนเงินทองหรือของมีค่าอะไรก็ตาม ก็เป็นของที่ได้มาโดยไม่บริสุทธิ์คือ ไปลักขโมย หรือฉ้อโกงเขามา เบียดบังมาแล้วแอบอ้างว่าจะนำไปทำบุญ เป็นต้น

นอกจากนั้นก็ยังไม่เคยรักษาศีลเจริญภาวนาใด ๆ สังเกตได้จากจำคำสวดมนต์ไม่ได้เลยแม้แต่ง่ายๆ เช่น แค่ท่องนะโมฯ หรือกล่าวสมาทานศีล 5 ก็จำและท่องไม่ได้ อีกทั้งยังชอบทำผิดศีลข้อที่ 2 อยู่เป็นประจำคือ อาจจะไม่ได้ขโมยของโดยตรง แต่ใช้กลวิธีอุบายต่างๆ หรือถือเอาตามวิสาสะเอาไปโดยไม่รับอนุญาต โดยที่เจ้าของไม่รู้มาก่อนและยังไม่ได้เอ่ยปากจะให้ ฯลฯ

และที่สำคัญก็คืออาจจะเคยสร้างกรรมหนักไว้เช่น ในอดีตชาติเคยฆ่าสัตว์ พรากชีวิต ทรมานผู้อื่นแม้ว่าจะเป็นหน้าที่ก็ตาม บุญนั้นอยู่ส่วนบุญบาปนั้นอยู่ส่วนบาปที่ต้องให้ผลทั้งสองด้าน เจ้ากรรมนายเวรจึงมีจิตอาฆาต มาคอยบดบังโชคเอาไว้ไม่ให้คนผู้นั้นประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้า

เหตุจากกรรมใหม่

ในความจริงๆ แล้วคำว่า “โชค” นั้น ได้มีผู้ที่ได้ทำการพิสูจน์มาแล้วมากมายว่า คนเราจะมีโชคหรือไม่อยู่ที่ ตนเองกล้าจะสร้างโชคขึ้นมาหรือไม่ คนที่ไม่มีโชคเลยก็คือ ณ ปัจจุบันเป็นคนที่เกียจคร้านไม่ยอมออกไปแสวงหา “โอกาส” ให้ตัวเอง ชาตินี้คงจะพบกับคำว่าโชคลำบากเสียหน่อย

แต่เมื่อคิดได้และพยายามขวนขวายทำงาน ออกเสาะแสวงหาโอกาสที่ดีอยู่เสมอ โชคจึงจะมาสู่ชีวิต การที่คนเราจะมีโชคหรือไม่มีนั้นอยู่ที่ “ความขยันแสวงหาทรัพย์อย่างสุจริต” มากกว่าการวิ่งไปติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลงมัวเมาซื้อหวยหลายๆ เบอร์จนหมดเนื้อหมดตัวเอาเงินทุ่มไปกับสิ่งที่เชื่อว่าจะเป็นลาภลอยมา ในคนที่มีโชคหรือมีบุญเก่ามามาก เมื่อถึงบุญเก่าส่งผล อยู่เฉยๆ ที่บ้านก็มีคนเอาลาภมาส่งให้

ดังนั้นหากต้องการประสบกับโชคลาภก็ต้องปฏิบัติตนแก้ไขกรรมใหม่ให้ถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรม เร่งสร้างความดี สร้างบุญเสียเพราะบุญเป็นตัวการสำคัญ เป็นเหตุโดยตรงที่จะทำให้มีโชคลาภซึ่งเป็นผลของบุญ พระพุทธเจ้า ตรัสว่า โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นเหตุบังเอิญ ทุกอย่างเป็นไปเหตุ มีสิ่งนั้นจึงมีสิ่งนี้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรรมที่ได้กระทำและกรรมเป็นผู้จัดสรรไว้แล้วเท่านั้น ดังที่กล่าวยกตัวอย่างไปแล้ว หากต้องการจะเป็นผู้ที่โชคลาภทำมาค้าขึ้น ค้าขายได้ร่ำรวยมีแต่คนสนับสนุนส่งเสริมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโชคลาภที่ดีทั้งสิ้นควรพึงปฏิบัติแก้ไขในทางธรรม

ทำบุญทำทานด้วยหลักแห่งการทำทานที่บริสุทธิ์ โดยที่ทานนั้นขอให้มุ่งหวังเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นอยู่เสมอ หรือเป็นทานที่เป็นไปเพื่อส่วนรวมเช่น การร่วมถวายผ้ากฐินผ้าป่า หรือว่าร่วมสร้างร่วมบริจาคปัจจัยให้เป็นประโยชน์แก่วัด ชักชวนคนให้มาทำบุญ และเลือกคบแต่คนดีเป็นกัลยาณมิตรที่จะช่วยเกื้อกูลกันได้ ทำทานด้วยการเติมน้ำมันตะเกียง ปิดทองหลังองค์พระ จากนั้นให้ทำการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายโดยเฉพาะผู้ที่เคยก่อกรรมในเรื่องของการทำแท้งมาขอให้ระบุเจาะจงบุญที่ทำให้เด็กที่ปิดกั้นดวงและความเจริญของเราไว้ และต้องถือศีลในข้อ 1 เรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และข้อ 2 เรื่องของการลักทรัพย์เบียดบังผู้อื่น ต้องอย่าบกพร่องเป็นอันขาด ถ้าวันไหนศีลขาดต้องสมาทานศีลใหม่ ตั้งใจใหม่ทันที

หมั่นสวดมนต์เจริญภาวนาอยู่เป็นประจำ หากเปิดกิจกาจค้าขาย ห้างร้าน ควรที่จะบูชาสิ่งศักดิ์ เจ้าที่เจ้าทางที่เขาดูแลสถานที่แห่งนั้นด้วยความเคารพ ไม่ทำอะไรที่ผิดศีล ผิดธรรมในสถานที่แห่งนั้น หมั่นบูชาองค์เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเอกเกี่ยวกับโชคลาภ ความร่ำรวยเอาไว้เพื่อความเป็นมงคล อย่างเช่น หมั่นสวดพระคาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้าหรือพระคาถาเงินล้าน เพื่อเสริมด้านโชคลาภและการเป็นที่รักของผู้อื่น

การบูชาท่านที่ดีที่สุดคือการปฏิบัติบูชา ยึดเอาวัตรปฏิบัติของท่านมาดำเนินชีวิต เป็นต้น ส่วนเรื่องเครื่องบูชาสังเวยนั้น แล้วแต่ท่านจะศรัทธา แต่ขอให้พอเหมาะพอควรอย่าให้เป็นเรื่องวุ่นวายหรือต้องเดือดร้อนในเรื่องนี้ เพียงน้ำสะอาด ดอกไม้หอม ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้าอยากจะถวายอาหาร ผลไม้นั้น ขอแนะนำว่าให้ไปถวายพระสงฆ์แล้วอุทิศบุญไปให้ท่านจะเป็นการดีที่สุด เป็นการเชื่อมบุญกับท่านด้วย เพื่อเปิดทางให้เราได้รับเมตตาจากเจ้าของพระคาถา และเทวดาที่คุ้มครองพระคาถานั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook