พิษเศรษฐกิจตกสะเก็ดคนหันพึ่งหมอดูเพิ่มขึ้น โหรดังชี้ศก.แย่อีก 2 ปี-เตือนปชช.ใช้ชีวิตระวัง

พิษเศรษฐกิจตกสะเก็ดคนหันพึ่งหมอดูเพิ่มขึ้น โหรดังชี้ศก.แย่อีก 2 ปี-เตือนปชช.ใช้ชีวิตระวัง

พิษเศรษฐกิจตกสะเก็ดคนหันพึ่งหมอดูเพิ่มขึ้น โหรดังชี้ศก.แย่อีก 2 ปี-เตือนปชช.ใช้ชีวิตระวัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โหรชั้นนำของเมืองไทยระบุประชาชนหันมาดูดวงมากขึ้น หลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งคาดว่าจะต่อเนื่องไปอีกหลายปี เตือนประชาชนระวังทั้งการดูดวง และการใช้ชีวิต

วันนี้ (30 ส.ค.2558) การดูดวงดูฤกษ์เป็นส่วนหนึ่งของโหราศาสตร์ ที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมานาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการโกนจุก งานบวช งานแต่งงาน การขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้แต่การเปิดร้านใหม่ก็ต้องมีการดูฤกษ์ผานาที เพื่อความเป็นสิริมงคล หรืออย่างน้อยเพื่อความสบายใจ และเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นในการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต และยิ่งในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ตั้งข้อสังเกตว่า คนไทยมีแนวโน้มหันไปพึ่งการดูดวงมากขึ้นหรือไม่

อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมีคนมาดูหมอดูเพิ่มขึ้น แต่หากเปรียบเทียบกับภาวะปกติถือว่ายังไม่มาก แต่มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะมาดูในเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การงาน และความรัก แต่จะสอบถามแบบเจาะลึกในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง การงาน การเงิน ความเป็นอยู่มากกว่าประเด็นอื่นๆ และจากดวงเมือง ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังวุ่นๆ อยู่ มองว่าเศรษฐกิจจะแย่ไปอีก 1-2 ปี

“สำหรับข้อคิดในการดูดวงก็คือ ให้รู้ตัวเอง ประมาณตัวเอง รอบคอบ ระมัดระวังในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งระมัดระวังเรื่องการงาน เศรษฐกิจ เงินทอง การใช้จ่าย อย่าสุรุ่ยสุร่าย บางคนมีปัญหาเพราะสุรุ่ยสุร่าย ใช้เงินไม่บันยะบันยัง มือเติบ”

อ.ศิวนาถ ฤชุพันธุ์ นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำมีคนมาดูหมอปกติ ซึ่งเหมือนกับทุกปีที่คนส่วนใหญ่จะสอบถามเรื่องจะทำธุรกิจอะไรดี เหมาะกับดวงหรือไม่ จำนวนคนดูยังทรงตัวอยู่ มองว่าเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ไปอีกพักใหญ่ ต้องรอหลังวันที่ 21 เม.ย.2559 ไปแล้ว พอจะดีขึ้นบ้าง

“การดูดวงต้องใช้สติ หมอดูเป็นผู้แนะแนว และแนะนำว่าควรจะทำอะไรดีให้ถูกกับดวง เช่น ดวงเขาดาวศุกร์ดีก็ควรไปทำอาหาร ไม่ใช่ว่าดูดวงแล้วบอกว่าจะรวยแล้วไม่ทำอะไรไปสวดมนต์ซึ่งไม่ถูก และแนะนำว่าอะไรไม่เหมาะกับเขา เช่น เขากำลังจะทำอะไรสักอย่าง ซึ่งในดวงไม่เหมาะกับเขาก็แนะนำว่าอันนี้ไม่ควรทำนะ ควรทำอย่างนี้ดีกว่า หากในดวงจังหวะดีมาก ก็แนะนำว่าอย่าลงทุนมาก อย่าไปโลภเกินและมั่นใจในสิ่งที่ทำเกินไป ความตั้งใจทำดีแล้ว แต่ต้องยั้งๆ ไว้บ้าง เพราะในดวงบางอย่างตรงนี้ยังไม่ดีมาก ชะลอไว้นิดนึง ต้องให้สติคนดู และคนดูต้องใช้วิจารณญาณ”

อาจารย์ศิวนาถกล่าวอีกว่า อย่าไปเชื่อ ถ้าใครมาบอกว่าต้องเสียเงินไปสะเดาะเคราะห์อะไรอย่างนี้ไม่ถูก ซึ่งตนจะไม่ทำให้ เพียงแต่แนะนำว่าควรจะทำบุญในลักษณะนี้ และไม่ต้องทำเสียเงินมาก ทำตามเหตุของฐานะของเราที่มี พอจะหลีกเลี่ยงแก้ดวงจากหนักเป็นเบาไปได้ และให้นึกไว้เลยว่าถ้าใครบอกสะเดาะเคราะห์แล้วเก็บเงิน แสดงว่าหมอดูคนนั้นไม่ดีแล้ว เพราะเขามีเคราะห์อยู่แล้ว เป็นหมอดูต้องเห็นใจเขา ควรจะแนะนำเขา การเก็บเงินค่าดูดวงค่าครูพอเหตุพอสมควร

ขณะที่ อาจารย์บุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต ส.ว.ฉะเชิงเทรา หรือ โหร ส.ว.กล่าวว่า ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีมีคนมาดูหมอดูมากขึ้น โดยปกติแล้วไม่ได้ทำเป็นอาชีพ แต่ดูดวงให้เฉพาะคนที่รู้จักเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่ดูดวงจะมาจากอยากรู้อยากเห็นอนาคตตัวเองโดยทั่วไป พอเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ทุกคนกลัวไปหมด กลัวว่าบ้านเมืองจะไปอย่างไร กลัวเรื่องปากเรื่องท้อง ซึ่งเศรษฐกิจจะไม่ดีอย่างนี้ไปอีกนาน เนื่องจากดาวมฤตยูอยู่ 7 ปี 2 ครั้ง โดยจะอยู่ในราศีเมษ 7 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2566 โดยในช่วงนี้เป็นวิกฤติเรื่องภัยแล้ง และทั้งโลกมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง รบราฆ่าฟัน มีความขัดแย้งทางการเมืองสูงมาก อาจเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ หลังจากปี 2566 ดาวมฤตยูจะย้ายไปอยู่ราศีกันย์ เศรษฐกิจของดวงเมืองดวงโลกจะตกต่ำอย่างรุนแรง รวมเป็น 14 ปี โดยจะลำบากกันไป 14 ปี และเป็นแบบนี้ทั้งโลก ขัดแย้งกันทั้งโลก

“คนต้องสร้างความดีจึงจะพ้นจากอิทธิพลดวงดาว จะต้องเป็นคนมีศีลมีธรรม คนทำชั่วจะล้มหายตายจากหมด คนที่ทำดีละชั่วทำจิตใจให้ผ่องใสโดยการทำทานถือศีล สวดมนต์ภาวนาอย่างถูกวิธีตลอดไป ถึงจะเอาชนะอิทธิพลของดวงดาวร้ายนี้ได้ ไม่มีทางอื่นและไม่ใช่วิธีการสะเดาะห์เคราะห์ใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่ไสยศาสตร์ เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook