ลางบอกเหตุจากกระจกเงา

ลางบอกเหตุจากกระจกเงา

ลางบอกเหตุจากกระจกเงา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระจกเงา คนโบราณเชื่อกันว่า กระจกเงาที่เราใช้ส่องอยู่ทุกวันนี้ เปรียบเสมือนกับเงา หรือดวงวิญญานของมนุษย์ เพราะเมื่อเราได้ส่องกระจกเราก้อจะรู้ว่ารูปราง ลักษณะหน้าตาของเราเป็นเช่นใด ดังนั้นคนในสมัยโบราณจึงให้ความสำคัญ กับกระจกเงาเป็นอย่างมาก ลองมาดูกันว่าท่านได้เปรียบกระจกเงาเป็นลาง สังหรณ์ในด้านใดบ้าง

 


1. หากกระจกส่องเงาในบ้านใครเเตก โดยที่ท่านทุบเเตกเอง หรือแตกเอง โดยไม่รู้สาเหตุ เชื่อกันว่าคนในบ้านนั้นกำลังจะมีเคราะห์จนถึงเลือดตกยางออก เพราะเชื่อกันว่า กระจกเปรียบเสมือนเงาหรือวิญญานของตัวท่าน เพราะท่าน ต้องส่องมองกระจกทุกวันเพื่อดูตัวท่านเอง เเต่หากวันใดเงาของท่านเเตกสลายไป ดวงวิญญานของท่านก็จะลับไปด้วยเช่นกัน

เมื่อกระจกส่องเงาของท่านเเตก ให้รีบเก็บกวาดให้สะอาด เเล้วนำไปทิ้งในที่มิดชิด เพราะกลัวว่าเด็กหรือใครต่อใคร ที่เดินผ่านมาจะเหยียบเอา เเละเกิดบาดเจ็บได้ หลังจากนั้น ก็ให้จุดธูปไหว้พระขอพร สิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ช่วยคุ้มครองท่านให้เเคล้วคลาดปลอดภัย ในวันรุ่งขึ้นก้ให้ตักบาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรเสีย เเละให้รีบซื้อบานใหม่มาทดแทน

2.เงาตัวเองหายไปเมื่อส่องกระจก หากเมื่อใดก็ตามที่ท่านยืนส่องกระจกในบ้านเพื่อดูเงาหรือความเรียบร้อยของ ตัวเอง เเละปรากฏว่าอยู่ๆเงาในกระจกของท่านก็หายไปท่านว่าเป็นลางไม่ดี อาจมีอันตรายถึงชีวิต ท่านให้รีบไปทำการสะเดาะห์เคราะห์ ตักบาตรทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรเสีย เผื่อว่ากรรมหนักจะได้กลายเป็นเบา

3. หากเมื่อใดก็ตามที่ระจกในบ้านของท่านเเตกหรือร้าว เชื่ิอกันว่าว่าไม่ให้เก็บกระจก หรือเศษกระจกไว้ในบ้าน ให้นำไปทิ้งเสีย เพราะเชื่อว่า กระจกที่เเตกหรือร้าว เป็นลางร้ายเกี่ยวกับคนในครอบครัวอาจทำให้คนในครอบครัวมีการทะเลาะเบาะเเว้งกัน อยู่กันอย่างไม่เป็นสุข เเละอาจเกิดอันตรายจนถึงเลือดตกยางออกได้

4. ไม่ควรตั้งกระจกให้ตรงกับปลายเตียงนอน เพราะคนในสมัยโบราณ เชื่อเรื่องพิธีกรรมเกี่ยวกับกระจกว่า มันสามารถสะท้อนภาพคนที่ตายไปเเล้ว ออกมาจากกระจก ดังนั้นผู้ที่นอนอยู่บนเตียงจึงมักจะนอนฝันร้าย เเละมักจะ นอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีเงาของใครบางคนคอยจ้อง มองอยู่ตลอดเวลา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook