ความเชื่อเรื่องการนำเงินใส่ "ปากผี"

ความเชื่อเรื่องการนำเงินใส่ "ปากผี"

ความเชื่อเรื่องการนำเงินใส่ "ปากผี"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การนำเงินใส่ปากศพ ถือว่าเป็นความเชื่อในสังคมไทย มาช้านาน แม้แต่ชาติอื่นๆ ก็มีความเชื่อในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย จะแตกต่างกันในข้อปฏิบัติ ซึ่งในสังคมไทยวิธีปฏิบัติก็คือ จะนำ เงินพดด้วง หรือเงินเหรียญบาทหนึ่งหรือจะเป็นเหรียญสลึงสองสลึงไม่กำหนดตายตัว

แล้วห่อผ้าขาวผูกเชือกไว้หางยาว หย่อนลงใส่ไว้ในปากศพ ให้เชือกห้อยออกมานอกปาก ถ้าไม่ผูกเชือก จะห่อให้โตพอไม่ให้เลื่อนลึกลงไปในลำคอ เพราะเวลานำไปเผาจะได้ เอาออกมาเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกหรือเครื่องรางได้ ในปัจจุบันบางทีก็ใช้ของมีราคา เช่น ทองคำ บรรจุแทนก็ได้ ซึ่งการกระทำเหล่านี้มีคำอธิบายไว้หลายเหตุผลว่าทำไปเพราะอะไร ดังนี้


ประการแรก การนำเงินใส่ปากศพก็เพื่อผู้ตายจะได้เอา ทรัพย์ติดตัว ไปใช้สอย ในเมืองผี แต่มีข้อสงสัยว่าทำไมจึงใส่เงินในปาก แค่เพียงหนึ่งบาทเท่านั้น แต่ตามความเชื่อของคนจีน จะมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ผู้ตายคราวละมากๆ จะเห็นได้ว่า มีความแตกต่างกันระหว่างความเชื่อของคนไทยกับคนจีน

ประการที่สอง เพื่อให้พิจารณาเห็นว่า บรรดา ทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ แม้มากสักเท่าใด ตายแล้วก็นำติดตัวไปไม่ได้ เขาย่อมควักเอาออกจากปาก สุดท้ายจะเอาไปได้ก็แต่กรรมที่ทำไว้ ซึ่งย่อมติดตามไปคล้ายเงาตน และจะส่งผลให้ได้ รับทุกข์ หรือสุขก็ตามแต่กรรมที่ตนได้กระทำไว้ เพราะฉะนั้น คนเราเกิดมาอย่าได้ ลุ่มหลงอยู่กับ ทรัพย์สมบัติ

ประการที่สาม เพื่อให้เป็นค่าจ้างแก่สัปเหร่อที่จะนำศพไปเผา ที่ต้องนำไปใส่ไว้ ในปากเพราะว่าจะได้ค้นหาได้สะดวก เพราะถ้าเจ้าภาพบิดพลิ้วสัญญาค่าจ้างภายหลัง เงินใส่ปากศพจะกลายเป็นเงินค่าจ้าง เพราะในสมัยก่อนเงินบาทมีค่ามาก ตามความเชื่อ ของกรีกโบราณที่เล่าต่อๆกันมาว่า ผู้ที่ตายวิญญาณจะไปสู่เมืองผี

ตามความเชื่อคนไทยจะนำใส่ไว้ในปาก และโรยไว้รอบๆโลงศพ เพื่อภพหน้าจะสามารถนำไปซื้อที่ ซื้อบ้าน เป็นทรัพย์ติดตัว นอกจากนี้ เงินปากผี ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.เงินปากผีดิบ จะยัดใส่ปาก สวดครบ 3 วัน จึงจะเอาออกมา เน้นเรื่องค้าขาย

2.เงินปากผีสุก ยัดสวดจนครบวัน จึงจะนำออกมา เน้นเรื่องมนต์ดำ เสน่ห์เล่ห์กล

ขั้นตอนการได้มาของ เงินปากผี ก็จะใช้วิธีให้นำสัปเหร่อ ทำพิธีนำเหรียญออกมาจากศพ เงินปากผีที่ขลังที่สุด ตามตำรากล่าวไว้ว่า หายากที่สุดคือ ตายวันเสาร์แล้วเผาวันอังคาร จะเป็นที่ต้องการมาก เพราะสามารถนำมาทำพิธีกรรมได้หลายอย่าง เชื่อว่า สามารถซื้อวิญญาณคนเป็นได้ บางรายที่อยากให้ใครหลงเสน่ห์ ต้องการใช้วิชาอาคม ก็จะให้อาจารย์ลงวิชาอาคมใส่เหรียญ แล้วดีดใส่คนที่ชอบ ซึ่งการซื้อวิญญาณนั้น จะทำให้คนที่โดนมนต์ดำถูกสั่งให้ทำอะไรก็ได้ 

ชาวกรีกโบราณ มีเรื่องเล่าว่าในอดีตว่า มีเมืองที่อยู่ใต้ เมืองมนุษย์ ทางทิศตะวันตกอันไกลแสนไกล จะมีแม่น้ำปันแดนความสว่าง และความมืดชื่อว่า "แม่น้ำสติกษ์" (แปลว่าดำมืด) วิญญาณของผู้ตายไปสู่เมืองผีได้ก็ต้องข้ามแม่น้ำนี้ มีมนุษย์ชื่อว่า "การน" มีรูปร่าง เป็นคนแก่ผมหยิกดำ หนวดเครารุงรัง แจวเรือรับส่งวิญญาณข้ามฟาก โดยคิดค่าจ้างรับส่ง เป็นเงิน หนึ่งอะบะลัส

ด้วยเหตุนี้เมื่อมีคนตาย ชาวกรีกโบราณ จะนำเงินหนึ่งอะบะลัส ใส่ปากศพตรงใต้ลิ้น สำหรับเป็นค่าจ้าง ข้ามส่งให้กับมนุษย์การน เมื่อข้ามฟากได้แล้ววิญญาณจะถูกพาไปศาลเมืองผี และ จะถูกไต่สวนถึงบาปบุญที่ได้ทำไว้แต่ครั้งยังอยุ่ในโลกมนุษย์ ถ้าวิญญาณ ได้ทำบุญ ไว้จะถูก พิพากษาให้ไปสู่สถานบรมสุขเรียกว่า "อีลีเซียม" ซึ่งเป็นแดนรื่นรมย์ เมื่อเสวยสุขครบพันปี วิญญาณ จะกลับมาเกิดในเมืองมนุษย์อีกครั้ง แต่ก่อนที่เวียนมาเกิดใหม่ วิญญาณจะต้องดื่มน้ำ ในแม่น้ำลีซี เพื่อ ให้ลืมความหลัง ส่วนวิญญาณที่ทำบาป จะถูกพาไปสู่นรก "ฮาดีส"

ในปัจจุบัน ชาวยุโรป ที่นับถือลัทธิคริสตัง ที่สืบประเพณีโบราณกันมา จะเอาเบี้ยทองแดงเพนนีหนึ่งวางไว้ ตรากระบอกตาของคนตาย เพื่อใช้เป็นค่าจ้างข้ามแม่น้ำแห่งความตาย

ชาวฮินดู ก็มีความเชื่อ ในเรื่องนี้ไม่น้อยเหมือนกัน โดยจะเอาเงินและข้าวสารเล็กน้อยใส่ปากศพ พวกสิงโพที่เป็น ชาวป่าของพม่า เมื่อแต่งตัวศพเรียบร้อยแล้ว จะเอาเนื้อหมูและเหล้าและข้าวเซ่นสรวง และเอาเงินใส่ปากศพ ถ้าผู้ตายเป็นหัวหน้าจะเอาหินแก้วอันมีค่าใส่ไว้ใต้รักแร้ ข้างละเม็ด แล้วจึงนำใส่โลง

ชาวจีน จะเอาอีแป๊ะใส่ปากศพและเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook