เตรียมพิธีรดน้ำขอพร ขอขมาบุพการี ปีใหม่ไทย 2561

เตรียมพิธีรดน้ำขอพร ขอขมาบุพการี ปีใหม่ไทย 2561

เตรียมพิธีรดน้ำขอพร ขอขมาบุพการี ปีใหม่ไทย 2561
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ กระทำการขอขมาพ่อและแม่ตามธรรมเนียมโบราณ เป็นแสดงกตัญญุตาลาโทษต่อผู้มีพระคุณ ล้างอาถรรพ์เสริมมงคลชีวิต เพื่อปลดคลายวาระวิบากกรรม ที่บางคน บางท่าน กำลังเผชิญอกุศลวิบาก อันจะยังผลปลดบ่วงวาระสู่กุศลวิบาก ในการสร้างสมบำเพ็ญตนยิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่ง ประเพณีรดน้ำดำหัว เป็นสิ่งที่ทำต่อเนื่องกันมายาวนานในปีใหม่ไทย พร้อมทั้งรับคำอวยพรเพื่อสิริมงคลของชีวิต และประเพณีนี้ยังทรงคุณค่ามาจนทุกวันนี้ คุณค่าที่ชาวไทยเราไม่ควรมองข้าม

 

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. พานธูปเทียนแพ หรือ พวงมาลัย 1 พวง
2. ซอง ใส่ปัจจัยให้พ่อแม่เท่าไหร่ก็ได้ เป็นการซื้อชีวิตใหม่จากบุพการี
3. ชุดใหม่ให้พ่อแม่ นิยมเป็นชุดนอน / อาหารที่ท่านโปรด
4. กะลังมังใบใหม่ใส่น้ำอุ่น น้ำลอยดอกมะลิ หรืออาจจะเป็นน้ำใส่น้ำอบให้หอม ๆ
5. ผ้าเช็ดมือ เช็ดเท้าผืนใหม่
6. ผ้าขาวดิบ
7. ถาดใส่ของ (วางทับด้วยผ้าขาวดิบ)

(หากไม่มี/ไม่สามารถเตรียมตามความพร้อมทั้งหลายเหล่านี้ได้ สามาถกระทำเพียงน้อมจิตตั้ง นโมฯ ทำการกล่าวคำสมาลาโทษได้เลย)

ขั้นตอนพิธี

น้อมจิต ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึง พระคุณพระรัตนตรัย พระคุณพ่อ พระคุณแม่ แล้วกล่าวคำขอขมา ดังนี้

อนันตะ คุณะสัมปันนา ชะเนติ ชะนะกาอุโภมัยหัง
มาตาปิตุนัง วะปาเท วันทา มิ สาทะรัง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา หากลูกล่วงเกินคุณพ่อคุณแม่ ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ลูกขอขมา ขออภัยจากคุณพ่อและคุณแม่ด้วย

ขอให้คุณพ่อและคุณแม่โปรด อโหสิกรรม แก่ลูกด้วยเถิด
นับจากวันนี้ไป ลูกสัญญาว่าจะไม่ประพฤติเช่นที่แล้วๆ มาอีก หากลูกกระทำสิ่งใดไม่ถูกไม่ควรหรือไม่ดีงาม
ขอคุณพ่อ คุณแม่ ได้โปรดว่ากล่าวตักเตือน และสั่งสอนลูกด้วยเถิด วันนี้เป็นวันดี วันมงคล
ลูกขอรับคำพรอันศักดิ์สิทธิ์ จากคุณพ่อคุณแม่เพื่อประโยชน์และความสุขความเจริญรุ่งเรื่องของลูก

ขอคุณพ่อคุณแม่ได้โปรดอวยพรให้ลูกด้วย ขอให้เป็นอภัยทาน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
ขอเศษกรรมเหล่านั้นอย่าได้ติดไปในภพเบื้องหน้า นับแต่บัดนี้ไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

หรือกล่าวตามนี้ ....
“กรรมใดที่ลูก (หรือกระผม / หนู) ได้กระทำล่วงเกินต่อพ่อและแม่
จะด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ทั้งต่อหน้า และ ลับหลัง ทั้งที่ได้ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งในชาตินี้และทุกๆชาติที่ผ่านมา ลูก (หรือกระผม / หนู) ขอขมากรรม ขออโหสิกรรมจากพ่อและแม่
ขอให้พ่อและแม่ให้อโหสิกรรมแก่ลูก (หรือกระผม / หนู) ด้วยเถิด” (ไม่จำเป็นต้องตามนี้ทุกคำก็ได้)

กล่าวจบให้ยก ของที่จัดเตรียมนำไปขอขมาให้ แล้วพ่อและแม่จะต้องกล่าวคำว่า “ให้อโหสิกรรม”
กล่าวอโหสิกรรม พร้อมให้อวยพรในสิ่งที่ดีๆ ให้กับเรา เมื่อรับคำอวยพรแล้วกราบลงตรงเท้าของท่าน 5 ครั้ง
( 5 ครั้ง ในที่นี้ คือ น้อมรำลึกพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระคุณแม่ และพระคุณพ่อ นั้นเอง)


การล้างเท้า พ่อและแม่
- เตรียมน้ำมนต์ที่ได้จากการทำน้ำมนต์ของพระสงฆ์แยกอีกถังหนึ่ง ไว้ต่างหาก
- ล้างเท้าท่านให้สะอาดก่อน แล้วให้ท่านนั่งเอาเท้าวางลงในกะละมังใบใหญ่ๆ
เอาน้ำสะอาดราดรดเท้า ให้ท่วมหลังเท้าของท่าน โดยขอให้ท่านกล่าวคำอวยพรให้เรา
มีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง พ้นจากความทุกข์เสียที และเมื่อล้างเท้าพ่อและแม่เสร็จแล้ว
ให้ก้มกราบที่เท้าอีกท่านๆละ 5 ครั้ง

การอาบน้ำ ด้วยการนำน้ำที่ล้างเท้าพ่อและแม่
- นำน้ำที่ได้ล้างเท้าของพ่อและแม่มาอาบก่อน ในบริเวณกลางแจ้ง ช่วงเวลาเช้าหรือเวลากลางวัน
ให้ราด ตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงเท้า และลงถึงพื้นดิน โดยเป็นการอาบให้ครบองค์ประกอบพร้อมประชุมธาตุทั้งสี่คือ
ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยที่เท้าเหยียบพื้นดิน ร่างกายสัมผัสสายน้ำ สายลม และ แสงแดด
- เมื่ออาบน้ำที่ได้จากพ่อแม่เสร็จแล้ว ต่อจากนั้นให้ตามด้วย การอาบน้ำมนต์ (หากมี)
เป็นทั้งการล้างอาถรรพ์และเสริมมงคลชีวิตในครั้งเดียวต่อจากนั้น เช็ดตัวให้แห้งแล้ว สวมใส่เสื้อผ้าที่เตรียมไว้

หมายเหตุ
พิธีการขอขมากรรมนั้นจะสำเร็จผล จะต้องประกอบด้วยผู้ขอขมากรรมและผู้ให้อโหสิกรรม ผู้ขอขมากรรม ก็คือเรา เราจะต้องกระทำให้ครบทั้ง 3 ทางคือ กาย วาจา และใจ วิธีการก็คือ ขอให้พ่อ และแม่ของ เรามานั่งที่เก้าอี้แล้วเราก็เอากะละมังใส่น้ำมา เอาเท้าพ่อและแม่ (ทีละคน) แช่ลงในน้ำแล้วเอามือล้าง ให้สะอาดจนเสร็จ แล้วนั่งคุกเข่าพนมมือตั้งใจแล้วพูดออกเสียง แล้วพ่อและแม่จะต้องกล่าวคำว่า “ให้อโหสิกรรม” จากนั้นเราก็เอาน้ำล้างเท้าพ่อแม่เรานั่นเหละมาล้างหน้าลูบหัว เป็นอันเสร็จพิธี

วิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นัยว่าเป็นเคล็ดของสวรรค์ และน้ำล้างเท้าบิดามารดานี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆ สำหรับลูก โบราณจารย์ถือเคล็ดนี้ เป็นการแสดงความนอบน้อมกตัญญุตาสมาลาโทษกรรม เพื่อชำระจิตที่เคยประมาทพลาดพลั้งไว้ต่อผู้มีพระคุณ ผ่านการคารวะกรรมต่อบุพพการีผู้เสมือนพระอรหันต์ประจำตัวเรานั่นเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook