ดินแดนพุทธภูมิ "ภูฏาน" ขอพรเรื่องงาน ความรัก มีบุตร เสบียงบุญสู่นิพพาน!

เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีสถานที่ท่องเที่ยวในใจ ที่อยากไปให้ได้สักครั้งในชีวิตและหนึ่งในนั้นคงต้องมี "ประเทศภูฏาน" อยากแตะขอบฟ้าบนพื้นที่สูงของประเทศภูฏานแผ่นดินอยู่อ้อมกอดหิมาลัย ที่ได้ชื่อว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย” ที่อยู่ระหว่างประเทศอินเดียกับจีน ประเทศที่มีอารยธรรม วัฒนธรรม และประเพณีที่งดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อบอวลด้วยกลิ่นไอแห่งศรัทธา ที่น้อยคนนักจะมีโอกาสที่จะได้ไปถึง ซึ่งตัวผู้เขียนเองเคยคิดฝันไว้ว่า..ครั้งหนึ่งในชีวิตจะไปตามหา "ชัมบาลา" 

คือความสงบสว่างด้วยพลังแห่งพุทธศาสนา โดยเชื่อกันว่าเราจะตามหา "ชัมบาลา" เจอก็ต่อเมื่อเราอยู่ในภาวะจิตที่สะอาดตั้งมั่นอยู่ในความดีและศรัทธาอันดีงามทั้งกาย วาจา ใจ  และแล้วก็ได้มีโอกาสดีๆ เมื่อทาง คลื่น 103 Like fm ได้พาผู้โชคดีจากการร่วมกิจกรรม ซึ่งนำทีมโดย คุณแดง-สกนธ์ เจียมบรรจง ประธานบริหารคลื่น 103 Like fm. และดีเจสาวหมวยอารมณ์ดี หญิง - กัญญา ไรวินท์ ไปกับ “Like Trip No.10 Happiness in Bhutan” พาไปท่องดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า ต้องบอกว่าเป็นทริปที่สุดประทับใจและน่าจดจำอย่างที่สุด

 

"ดินแดนแห่งศรัทธาและพุทธศาสนา"

วิถีชีวิตประจำวันของชาวภูฏานนั้น แทบทุกคนในภูฏานล้วนต้องทำพิธีกรรมทางตันตระญาณและวัชระญาณ ตั้งแต่เช้าก่อนออกจากบ้านจรดเย็นทุกคนต้องหมุน "กงล้อมนตรา" ส่วนใหญ่ต้องท่องมนต์ ทำสมาธิ นับลูกประคำหรือหมุนวงล้อมนตราทั้งนั้น โดยสามารถหมุนได้รอบตามความเชื่อของชาวภูฏานนั่นเชื่อว่าการหมุนวงล้อมนตรา 1 รอบ เท่ากับการสวดมนตราหลายพันบทและหลายพันครั้ง โดยสวดว่า "โอม มณีปัทเม หุม" เป็นมหามนต์ 5 คำที่ศักดิ์สิทธิ์ หัวใจแห่งพุทธวัชรญาณ

สามารถชำระล้างกาย วาจา ใจของผู้ที่สวดมนต์ ท่องบ่นภาวนา และปฏิบัติสมาธิด้วยเสียงมหามนต์ 5 คำนี้ ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณที่มีความเป็นสัตว์นรก เปรต เดรัจฉาน อสูร หรือแม้กระทั่งความเป็นเทพในตัวเราให้หมดสิ้น ให้เป็นกาย วาจา ใจ ที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ ประดุจหนึ่งเดียวกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ใครที่ได้เดินทางไปภูฎานก็อย่าลืมต้องไปหมุนวงล้อมนตราให้ได้

"พระราชวังแห่งความสุขสำราญ"

Punakha Dzong (พูนาคาซอง) ป้อมปราการแห่งพูนาคา เป็นทั้งป้อมปราการ พระราชวัง และวิหาร รวมอยู่ภายในกลุ่มอาคารเดียวกัน ได้ชื่อว่าเป็นซองที่สวยที่สุดของภูฏาน ตั้งอยู่ ณ จุดบรรจบกันของแม่น้ำโพ (Pho Chhu) และแม่น้ำโม (Mo Chhu) สร้างขึ้นโดย ซับดรุง งาวัง นัมเกล (Zhabdrung Ngawang Namgyal) ในช่วงคริสตศวรรษที่ 17 อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ องค์พระสังฆราช ทรงแสดงมาประทับอยู่ที่พูนาคาซองในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากพูนาคามีอากาศไม่หนาวเย็นจนเกินไป ด้วยเหตุที่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บน พื้นที่สูงเพียง 1,468 เมตร เท่านั้นเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่นี่จึงมีอากาศอบอุ่นกว่า รวมถึงพระราชพิธีสำคัญๆ ของภูฏานก็ยังคงจัดให้มีขึ้นที่ซองแห่งนี้ เช่น พระราชพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก

 

"ขอพร องค์พระศรีสัจจธรรม ช่วยเรื่องงานก้าวหน้า ณ จุดสูงที่สุดในโลก"

ขอพรศักดิ์สิทธิ์ องค์พระศรีสัจจธรรม (Buddha Dordenma Statue)พระศรีศากยมุนีหล่อด้วยสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวไทยแทบทุกคนต้องการมาสักการะเมื่อมาเที่ยวภูฏาน หลวงพ่อสัจจธรรมมีความสูง 169 ฟุต เป็นพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่จุดที่สูงที่สุดในโลก ภายในบรรจุพระพุทธรูปขนาดเล็กกว่า 1,000 องค์ เฉพาะองค์พระพุทธรูป ใช้เงินทุนสร้าง 47 ล้านเหรียญดอลลาร์ รัฐบาลภูฏานได้รับความร่วมมือด้านเงินทุนจากเศรษฐีชาวสิงคโปร์ สร้างโดยช่างฝีมือชาวไทย บริเวณฐานพระพุทธรูปเป็นห้องโถงสำหรับการทำสมาธิ รับความเป็นศิริมงคล เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน

 

 

"วัดชิมิลาคัง ขอพรเรื่องบุตร ความรัก ศักดิ์สิทธิ์นักแล"

หากใครที่ต้องการขอพรเรื่องความรัก เรื่องลูกและครอบครัวต้องไป "วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang)" ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเล็กๆใกล้กับเมืองพูนาคา ศาสนสถานที่สร้างขึ้นราวคริสตศวรรษที่ 15 เพื่อบูชาท่านดรุกปะ คุนเลย์ (Drukpa Kunley) ปัจจุบันชาวภูฏานนิยมมากราบไหว้ขอพรที่วัดแห่งนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมีบุตร ขอพรในเรื่องลูกและครอบครัว และขอพรให้ประสบความสำเร็จในด้านความรัก ขอให้มีลูกสืบสกุล ซึ่งวัดนี้จะขึ้นชื่อในหมู่ชาวภูฏานเรื่องการขอลูก ถ้าใครทำไงก็ไม่มีลูกให้มาขอ เค้าว่าศักดิ์สิทธิ์นักแล มีบางคนที่มีลูกอ่อนแล้วก็ยังสามารถมาขอให้ลูกโตมาหน้าตาดีได้อีกด้วย

นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของการเขียน ภาพอวัยวะเพศชายไว้ตามผนังบ้านของชาวภูฏาน เพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของท่านดรุกปะ คุนเลย์ ที่จะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายมิให้ย่างกรายเข้ามาภายในบ้านเรือน ต้องใช้การเดินเท้าระยะทางประมาณ 1 กิโล โดยระหว่างทางที่จะไปถึงวัดต้องเดินเท้าไปตามทุ่งนา ผ่านหมู่บ้านแต่ละหลังจะมีภาพวาดรูปองคชาติตามกำแพงบ้าน บริเวณหน้าบ้านเรือนก็จะมีการเขียนรูป "องคชาติ" ไว้เพื่อเป็นความเจริญรุ่งเรืองและช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย

"พิชิตวัดถ้ำพยัคฆ์เหิร เสบียงบุญสู่นิพพานศักดิ์สิทธิ์ชื่อเสียงระดับโลก"

วัดทักซัง (Taktsang Monastery) วิหารบนยอดสูงเฉียดฟ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์หัวใจแห่งพุทธศาสนาของชาวภูฏาน สถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดแห่งหนึ่งในเขตหิมาลัย ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1692 ณ ถ้ำที่องค์ท่าน คุรุรินโปเช (Guru Rinpoche) ที่บำเพ็ญเพียรเพื่อปราบเหล่ามารและเผยแพร่พุทธศาสนาให้เบ่งบานไปทั่วดินแดนหิมาลัยนี้ ซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าผาสูง พร้อมตัวเลขวัดใจ 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กับระยะทางที่ต้องเดินเท้าไป-กลับกว่า 7 กิโลเมตร ที่มีทัศนียภาพที่น่าตื่นตา ต้องเดินเท้าขึ้นมายังวัดแห่งนี้ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

โดยระหว่างทางจะผ่านป่าโอ๊ค ทุ่งหญ้า แนวธงมนต์ และขึ้นบันไดอีก 700 ขั้น เพื่อความสวยงามของวัดทักซังท่ามกลางภูเขาสวยและท้องฟ้าคุ้มค่ากับการเดินทาง ไม่แปลกใจเลยที่วัดทักซังจะมีชื่อเสียงระดับโลก ชาวภูฏานมีความเชื่อว่าการเดินขึ้นวัดทักซังเสมือนเป็นเส้นทางการบำเพ็ญเพียรให้เหงื่อได้หยาดหยดเป็นน้ำมนต์ และเชื่อว่าการได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดทักซังนี้จะเป็นเสบียงบุญให้ได้ไปสู่นิพพาน ซึ่งเป็นสถานที่มหัศจรรย์ถาวรวัตถุที่รวมจิตใจความศรัทธาที่ชาวภูฏาน ซึ่งคุณต้องลองก้าวออกไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ที่รวมจิตใจของชาวภูฏานแห่งนี้ด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์จิตมหากุศล พิชิตวัดถ้ำพยัคฆ์เหิรวัดทักซัง

 

และนี่คือดินแดนแห่งพุทธศาสนานิกายวัชระยาน เมืองที่สงบ ผู้คนที่เปี่ยมอัธยาศัย ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ ยากจะหาที่ไหนเปรียบได้ ความงดงามของวิถีแห่งภูฏานที่ห้ามพลาด ออกไปแตะขอบฟ้า ณ ดินแดนหิมาลัยกันเถอะ!